7 เทคนิคในการเปลี่ยนความคิด ไปประยุกต์ใช้ ชีวิตที่สดใส
Home » บทความทั่วไป » 7 เทคนิคในการเปลี่ยนความคิด ไปประยุกต์ใช้ ชีวิตที่สดใส
7 เทคนิคในการเปลี่ยนความคิด ไปประยุกต์ใช้ ชีวิตที่สดใส

7 เทคนิคในการเปลี่ยนความคิด ขั้นตอนในการปรับเปลี่ยนความคิด 7 ข้อที่หมอจะนำมาเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ได้แนวคิดมาจากการอ่านหนังสือชื่อ How successful people think เปลี่ยนวิธีคิดแล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยน เขียนโดย John C.Maxwell นำมาเรียบเรียงเป็นภาษาไทย โดย เริงศักดิ์ ปานเจริญ เป็นเทคนิคง่ายๆ อ่านแล้วลองทำตามที่หมอบอกดูนะครับ หมอเชื่อว่าทำให้ชีวิตเราดีขึ้นแน่นอน WBET69

คุณเชื่อหรือไม่ว่าความคิดของคนเรามีพลัง มีอิทธิพลในการสร้างสรรค์ และผลักดันสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างมากมาย เรื่องราวดีๆ หรือเลวร้ายที่เราประสบพบเจอนั้นมาจากสิ่งที่เราคิดทั้งนั้น กล่าวคือ หากคุณมองโลกในแง่ดี คุณก็จะมีพลังด้านบวกที่คอยสนับสนุนให้ตัวคุณมีพฤติกรรมที่ดี ทำแต่สิ่งที่ดี และคุณก็จะได้รับผลดีเป็นการตอบแทน

ในทางกลับกัน หากความคิดของคุณเต็มไปด้วยอคติ จิตใจของคุณก็จะหม่นหมอง หดหู่ ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระทำในแง่ลบ และส่งผลร้ายให้กับชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย ความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง มันสามารถเป็นได้ทั้งเชื้อเพลิง ที่ลุกโชติช่วงให้แสงสว่างกับชีวิต และเป็นดั่งไฟที่แผดเผาตัวเราให้มอดไหม้ กล่าวคือ ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ความคิดเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนด คุณสามารถนำเคล็ดลับ 7 เทคนิคในการเปลี่ยนความคิด ที่ช่วยปลุกความคิดดีๆไปประยุกต์ใช้ และคุณจะได้พบกับชีวิตที่สดใส และสวยงามตลอดไป

1.เห็นประโยชน์ของการปรับเปลี่ยนความคิด

เทคนิคแรกที่จะทำให้เราปรับเปลี่ยนความคิด หมอขอเริ่มจากการเห็นประโยชน์ ของการปรับเปลี่ยนความคิดก่อน เพราะจะทำให้เรามีกำลังใจ และมีเป้าหมายในการที่จะปรับเปลี่ยนจากความคิดเดิมๆ เก่าๆ และล้าสมัย ไปสู่ความคิดใหม่ๆ เจ๋งๆ ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้ดีขึ้นได้

การเปลี่ยนความคิดมีประโยชน์ คือ เมื่อไหร่ที่เราคิดเก่ง คิดดี เราสามารถใช้ความคิดสร้างขุมทรัพย์ มหาศาลให้กับตัวเองได้อย่างไม่สิ้นสุด เพราะการคิดดี คิดเก่ง จะทำให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และยังสร้างโอกาสดีๆ ให้แก่เราได้ด้วย ความคิดเป็นสิ่งเดียวที่ใช้แล้วไม่หมด ใช้มากๆ ยิ่งดี เหมือนดาบยิ่งลับยิ่งคม 

2.ต้องหาความรู้ด้านต่างๆ เข้าสู่สมองตลอดเวลา

การที่จะทำให้สมองมีแต่ความคิดดีๆต้องพยายามหาความรู้ในด้านต่างๆ เข้าสู่สมองให้มากที่สุด โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ต้องอ่าน ต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด (อาจจะอ่านเรื่องอื่นๆ บ้างเพื่อการคิดนอกกรอบ) ความคิดดีๆ ที่อยู่ในโลกออนไลน์พยายามเลือกดู การลงเรียนคอร์สออนไลน์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับงาน การหาความรู้เหล่านี้ก็เพื่อให้เป็นวัตถุดิบสำหรับการคิดในขั้นต่อๆ ไป ความรู้เหล่านี้เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ มันจะเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งมันจะเป็นความรู้ที่สมบูรณ์

3.พยายามคบคนที่คิดได้ดีกว่าเรา

เพราะเวลาที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน จะได้ซึมซับเอาหลัก และวิธีคิดที่ดีๆ หรือเจ๋งกว่าเรามาเพื่อเป็นวัตถุดิบ ในการสานต่อความคิดของเรา หากมัวแต่คิดคนเดียว หรือคบแต่คนที่มีความคิดในระดับเดียวกัน จะทำให้การคิดไม่พัฒนา จะอยู่ในระดับเดิมๆ เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถสร้าง หรือผลิตความคิดดีๆ ออกมาได้ หรือแม้แต่การพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกัน และกัน อาจทำให้ได้ไอเดีย หรือวิธีคิดมาต่อความคิดเราให้บรรเจิดขึ้นไปได้

4.เลือกคิดแต่ความคิดที่ดี

เราสามารถเลือกได้ว่าจะคิดแต่สิ่งดีๆ หรือสิ่งไม่ดีก็ได้ เพราะสมองสามารถคิดได้ทั้งนั้น เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าตัวเราเริ่มจะคิดไม่ดีแล้ว ต้องมีสติดึงความคิดให้กลับมา พยายามบังคับตัวเองให้เสพแต่ความคิดดีๆ และปล่อยความคิดดีๆ ออกไป เพราะโดยธรรมชาติสมอง มักจะคิดด้านลบ หรือด้านร้ายไว้ก่อน แต่ไม่ว่าสมอ งหรือจิตใจจะดึงให้ ความคิดเราให้ต่ำลงเพียงใดก็คงต้องใช้สติ ใช้ศีลธรรม ใช้คุณงามความดี เป็นหนทางนำเราไปสู่จุดที่สูงขึ้น

5.ทำตามที่คิดไว้ อย่ารอช้า

เพราะเวลามีจำกัด เราเกิดมาบนโลกนี้ ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง ทุกคนต้องจากโลกนี้ไปตามเวลาที่ควรจะเป็น ไม่มีใครอยู่เป็นอมตะ ดังนั้นหากมีความคิดอะไร ต้องรีบทำตามความคิดนั้น ไม่อย่างนั้นเราจะลืมความคิดดีๆ นั้น และกลับไปนับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง ทำให้ไม่สามารถพัฒนา การปรับเปลี่ยนความคิดได้เลย แต่ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วพยายามทำไปเรื่อยๆ มันก็คือการต่อจิ๊กซอว์ เพื่อให้เป็นภาพผืนใหญ่ เราจะมีความคิดที่ดี และต่อยอดไปเรื่อยๆ แต่ถ้าผัดผ่อนที่จะเริ่มทำตามความคิดที่ดีๆ เมื่อไหร่ที่จะเริ่มทำ อย่าลืมว่าเรามีเวลาน้อยลงเรื่อยๆ นะครับ

6.รักษาอารมณ์เพื่อสร้างความคิดดีๆ ขึ้นมา

การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน มักพบเจอกับสิ่งต่างๆ รอบตัวที่อาจทำให้อารมณ์ขุ่นมัว แต่เราต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่าไม่มีใคร ทำอะไรได้ถูกใจเราทุกอย่าง การมีอารมณ์ขุ่นมัวนั้นไม่ส่งผลดีต่อความคิด และชีวิตแน่ๆ เพราะเมื่อจิตใจไม่โปร่ง สมองไม่โล่ง ความคิดดีๆ ก็เกิดขึ้นยาก ดังนั้นไม่ว่าบรรยากาศข้างนอกจะเป็นอย่างไร ต้องรักษาอารมณ์ให้ดีตลอด เพราะถึงอย่างไรก็คงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงสิ่งอื่นๆ หรือคนอื่นๆ ได้ คงทำได้แค่ปรับเปลี่ยน ที่ความคิดเราเท่านั้น อยากเห็นโลก อยากเห็นสังคมเป็นแบบไหนให้เริ่มทำที่ตัวเราเองเลย แล้วจะได้เห็นโลกแบบนั้น

7.ผลิตความคิดใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

การที่เราจะมีความคิดดีๆ ได้ไม่จำกัดนั้น นอกจากต้องทำ 6 เทคนิคที่หมอกล่าวมาแล้ว ยังต้องมีหน้าที่ผลิตความคิดใหม่ๆ ออกมาให้ต่อเนื่องด้วย ถ้าหยุดคิดอะไรใหม่ๆ เซลล์สมองจะเริ่มฝ่อ ทำให้เวลาคิดอะไรจะคิดไม่ออก เพราะไม่มีความคิดอะไรใหม่ๆ อยู่ในหัว แต่ถ้าผลิตความคิดอะไรใหม่ๆ ได้ทุกวันก็เหมือนกับการเติมออกซิเจนใหม่ๆ เข้าไปในบ่อปลา ปลาได้ออกซิเจนใหม่ๆ ก็จะดีใจแหวกว่ายไปมา สมองที่ได้รับความคิดใหม่ๆ ก็จะรู้สึกถึงการถูกปลุก กระตุ้นให้เซลล์ประสาทตื่นตัว และทำงานได้ดีขึ้น สมองที่ขาดการคิด ก็เหมือนร่างกายที่ขาดอาหาร แล้วจะอยู่ได้อย่างไร

ถ้าอาหารของร่างกาย คือสารอาหาร อาหารของสมองก็คือความรู้ใหม่ๆ นี่แหละครับ เมื่อผลิตความคิดใหม่ๆ ก็จะไปต่อยอดความคิดเดิมให้สูงขึ้น ดีขึ้นไปเรื่อยๆ เราเองก็จะมีความคิดที่ดีขึ้นสำหรับเอาไว้แก้ปัญหาต่างๆ เอาไว้เป็นขุมทรัพย์ที่ใช้ไม่หมดเสียที...smashingsportclub

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *