โควิดพันธุ์ระบาดปี 2024 องค์การอนามัยโลกพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ JN.1 พุ่งสูงทั่วโลก
Home » บทความทั่วไป » โควิดพันธุ์ระบาดปี 2024 องค์การอนามัยโลกพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ JN.1 พุ่งสูงทั่วโลก
โควิดพันธุ์ระบาดปี 2024 องค์การอนามัยโลกพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ JN.1 พุ่งสูงทั่วโลก

โควิดพันธุ์ระบาดปี 2024 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์ JN.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน คาราบาวคัพ เป็น “สายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ” (Variants of Interest) เนื่องจาก “จำนวนผู้ป่วยที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ มีการพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ JN.1 แล้วในหลายประเทศ เช่น อินเดีย, จีน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และไทย อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกระบุว่า ความเสี่ยงต่อสาธารณะยังคงต่ำ และวัคซีนที่มีในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปกป้อง จากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์นี้ได้

แต่ก็เตือนว่า โรคโควิดและการติดเชื้ออื่น ๆ อาจเพิ่มสูงได้ในช่วงฤดูหนาวนี้ WHO ยังระบุอีกว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ อาทิ ไข้หวัด, ไวรัสอาร์เอสวี และโรคปอดอักเสบในเด็ก กำลังเพิ่มสูงในแถบซีกโลกเหนือ ซึ่งไวรัสเหล่านี้อาจทำให้เชื้อโควิดมีการเปลี่ยนแปลง และอาจนำไปสู่การพัฒนาจนเกิดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้

โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ถือเป็นโควิดสายพันธุ์หลัก ของโลกมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตลอดเวลานั้น องค์การอนามัยโลกได้ติดตามเชื้อโควิดสายพันธุ์ ที่ต้องให้ความสนใจที่เชื่อมโยงกับโอมิครอนมาหลายตัว รวมถึง JN.1 แต่ยังไม่มีโควิดสายพันธุ์ย่อยตัวไหนที่เข้าข่ายน่าวิตก

ทั้งนี้ โควิด JN.1 ถือว่าแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วทุกมุมโลก โดยถือเป็นสายพันธุ์ที่ขยายตัวเร็วสุดในสหรัฐฯ คิดเป็น 15-29% ของการติดเชื้อทั้งหมดในปัจจุบัน ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ

ด้านหน่วยงานความมั่นคง ด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร ระบุว่า โควิด JN.1 คิดเป็น 7% ของการตรวจพบเชื้อโควิดในห้องทดลอง โดยทางหน่วยงานระบุว่าจะเดินหน้าติดตามข้อมูล ที่มีทั้งหมดเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์นี้ และสายพันธุ์อื่น ๆ

โควิดพันธุ์ระบาดปี 2024 ยอดผู้ป่วยพุ่งช่วงฤดูหนาว

โควิดสายพันธุ์ JN.1 กำลังแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในทุกภูมิภาค ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการกลายพันธุ์ในส่วนหนามโปรตีน ที่มากกว่าสายพันธุ์หลักโอมิครอน

“คาดว่าโควิดสายพันธุ์นี้จะทำให้ผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียโรคอื่น ๆ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว” ผลประเมินความเสี่ยงขององค์การอนามัยโลก ระบุ

องค์การอนามัยโลกระบุอีกว่า ยังคงมีหลักฐานที่จำกัดว่า โควิดสายพันธุ์ JN.1 สามารถเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนได้ และยังไม่มีรายงานว่า คนมีโอกาสป่วยหนักจากโควิดสายพันธุ์นี้มากกว่าสายพันธุ์อื่น

อย่างไรก็ดี WHO ยอมรับว่า ต้องศึกษาถึงผลกระทบด้านสุขภาพเพิ่มเติม เพราะหลายประเทศรายงานข้อมูลว่า มีคนต้องเข้าโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิดลดลงอย่างมาก

ไทยพบ 3 ราย ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุเมื่อ 28 ธ.ค. ถึงความน่าเป็นห่วงการระบาดโอมิครอน “JN.1”ที่พบในไทยแล้ว 3 รายว่า การกลายพันธุ์ส่วนหนามตรงตำแหน่ง L455S แม้จะทำให้ความสามารถของ JN.1 ในการจับกับเซลล์ของมนุษย์ลดลงบ้าง แต่กลับไปเพิ่มความสามารถในการหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น

ส่งผลโดยรวมให้สามารถติดต่อแพร่เชื้อได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับโอมิครอนทุกสายพันธุ์ที่มีการระบาด อยู่ในปัจจุบัน ทางศูนย์จีโนมฯ สล็อตออนไลน์ กำลังเฝ้าติดตามโอมิครอน XDD รุ่นลูกของ JN.1 อยู่ด้วยเช่นกัน โอมิครอน XDD ถูกถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมและแชร์ในฐานข้อมูลโควิดโลกจีเสส (GISAID) เป็นที่เรียบร้อยกว่า 211 ราย โดยมีการกลายพันธุ์ส่วนหนาม “L455S” เช่นเดียวกับรุ่นพ่อแม่ แต่ยังไม่พบในไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *